Chefchaouen (เชฟชาอูน) หัวใจสีฟ้า

Chefchaouen-the-Ancient-Blue-City-in-Morocco-4.jpg

Chefchaouen (เชฟชาอูน) คือเมืองขนาดเล็กที่ตั้งอยู่ใจกลางภูเขา Rif ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ Morocco ไม่ไกลจากทะเลเมดิเตอร์เรเนียนเท่าใดนัก ที่มีอายุยาวนานและเก่าแก่มากที่สุด ทั้งมีความโดดเด่นด้วยอาคารบ้านเรือนได้รับการทาทาบด้วยสีฟ้าทั่วทั้งเมือง ชวนหลงใหลราวกับภาพวาดในจินตนาการ สร้างเสน่ห์ให้ผู้มาเยือนหลงใหลด้วยถนนที่คดเคี้ยว เมืองที่ดูเหมือนดึงออกมาจากความฝันของศิลปิน เมือง เชฟชาอูน ซึ่งมักเรียกขานกันว่า “ไข่มุกสีฟ้า” เมืองที่งดงามแห่งนี้ไม่ได้เป็นเพียงเป็นภาพงามสำหรับสายตาเท่านั้น เป็นจุดหมายปลายทางที่นำเสนอวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และสิ่งมหัศจรรย์ทางศิลปะที่รอให้คุณไปสำรวจ

ผนังสีน้ำเงินของ เชฟชาอูน เป็นหัวข้อที่น่าสนใจ มีหลายทฤษฎีว่าทำไมผนังจึงทาสีฟ้า ทฤษฎีหนึ่งที่ได้รับความนิยมคือสีน้ำเงินกันยุง กล่าวกันว่าสีน้ำเงินเป็นสัญลักษณ์ของท้องฟ้าและสวรรค์ และเป็นเครื่องเตือนใจให้ดำเนินชีวิตฝ่ายจิตวิญญาณ หรือเป็นตัวแทนของเทพเจ้า อย่างไรก็ตามความเห็นของชาวบ้านบางคนเข้าใจว่าผนังถูกกำหนดให้ทาสีฟ้าเพียงเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว

เชฟชาอูน ตั้งอยู่ใจกลางบนภูเขา Rif จึงรายล้อมรอบไปด้วยธรรมชาติ ต้นไม้ ภูเขา มีทิวทัศน์ที่สวยงาม จึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นิยมทั้ง backpackers และนักท่องเที่ยวต่าง ๆ เพราะได้ซึมซับธรรมชาติ และบรรยากาศของเมืองนี้ไปพร้อม ๆ กัน ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็สบายตา บริเวณทั่วเมืองสะอาดสะอ้าน ผู้คนยังน่ารักและเป็นกันเอง

Chefchaouen
Photo by Sergey Pesterev

เดินเล่นผ่านประวัติศาสตร์ ต้นกำเนิดของอาคารสีน้ำเงิน

เฉดสีฟ้าอันน่าหลงใหลที่ปกคลุมอาคารต่างๆ ของ เชฟชาอูน สืบเชื้อสายมาจากมรดกของชาวมัวร์และยิวในเมือง ในศตวรรษที่ 15 ในปี 1471 ถือว่าเป็นหนึ่งในเมืองที่เก่าแก่ที่สุด ผู้ลี้ภัยชาวยิวที่หนีจากการสืบสวนของสเปนมาตั้งรกรากในเมือง เชฟชาอูน โดยนำประเพณีการทาสีอาคารสีฟ้าเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของท้องฟ้าและสวรรค์ เสริมสร้างความรู้สึกสงบทางจิตวิญญาณ

จนในปี 1930 ผู้คนในเมืองช่วยกันทาอาคารบ้านเรือน ทางเดิน ประตู และทุก ๆ ที่ในเมืองให้เป็นสีฟ้า ด้วยความเชื่อทางศาสนาที่ว่า สีฟ้า-น้ำเงิน เป็นสัญลักษณ์และเป็นตัวเทนของเทพเจ้า เป็นสีของท้องฟ้าและทะเล และยังเพื่อเป็นการระลึกถึงพระเจ้า นอกจากนี้ชาวเมืองยังเชื่อว่า ผนังสีฟ้าสามารถช่วยไล่ยุงได้อีกด้วย เมื่อเวลาผ่านไป แนวทางปฏิบัตินี้ได้ฝังแน่นอยู่ในวัฒนธรรมของเมือง และได้พัฒนาไปสู่ทิวทัศน์เมืองสีฟ้าอันเป็นเอกลักษณ์ที่เราเห็นในปัจจุบัน

Chefchaouen
Photo by Taisha Ellison
Chefchaouen

นอกจากความสวยงามของทัศนียภาพและประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจแล้ว เมืองนี้ถือเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางของนักเดินทาง และ backpackers เนื่องจากค่าครองชีพไม่แพง มีสินค้าหัตถกรรมพื้นเมืองที่น่าสนใจ อาหารอร่อย มีเส้นทางเดินป่าชมธรรมชาติ ทั้งยังหากัญชา(ถูกกฎหมาย)ได้ง่ายในเมืองนี้

Chefchaouen

สถานที่ที่ต้องไปดู สำรวจสมบัติของ Chefchaouen

  1. The Medina เมดินาโบราณ ในเขาวงกตของถนนที่ปูด้วยหินคดเคี้ยวที่ประดับประดาด้วยส่วนหน้าอาคารสีฟ้าสดใส แต่ละมุมเผยให้เห็นอัญมณีที่ซ่อนอยู่ที่รอให้คุณค้นพบ
  2. Kasbah สำรวจป้อมปราการ Kasbah สมัยศตวรรษที่ 18 ซึ่งตั้งอยู่บนเนินเขาสูงที่มองเห็นเมือง ภายในคุณจะพบพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงประวัติศาสตร์อันยาวนานของภูมิภาค ตั้งแต่ต้นกำเนิดอันดาลูเซียนไปจนถึงปัจจุบันที่คึกคัก
  3. Ras El Maa หลีกหนีความวุ่นวายของเมดินาและผ่อนคลายริมน้ำอันเงียบสงบของราส เอล มา โอเอซิสอันเงียบสงบแห่งนี้เต็มไปด้วยแมกไม้เขียวขจีและน้ำตกที่ลดหลั่นเป็นชั้น เป็นสถานที่พักผ่อนอันเงียบสงบสำหรับนักเดินทางที่เหนื่อยล้า
  4. มัสยิดสเปน เดินขึ้นไปยังมัสยิดสเปนเพื่อชมทิวทัศน์มุมกว้างของเมือง เชฟชาอูน และภูเขาโดยรอบ ชมพระอาทิตย์ขึ้นหรือพระอาทิตย์ตกเพื่อประสบการณ์อันน่าทึ่งที่จะคงอยู่กับคุณไปอีกนานหลังจากที่คุณจากไป

จังหวะแห่งชีวิต เปิดรับวัฒนธรรมของ Chefchaouen

ในเมือง เชฟชาอูน เวลาดูเหมือนจะเดินช้าลงเมื่อคุณดื่มด่ำไปกับจังหวะของชีวิตประจำวัน ชมคนในท้องถิ่นดำเนินชีวิตประจำวัน ทักทายกันด้วยรอยยิ้มอันอบอุ่นและการพูดคุยที่มีชีวิตชีวา ใช้เวลาสักครู่เพื่อลิ้มรสกลิ่นหอมอันเย้ายวนจากตลาดอันคึกคัก ที่ซึ่งพ่อค้าแม่ค้าเร่ขายทุกอย่างตั้งแต่เครื่องเทศหอมไปจนถึงสมบัติทำมือ

A small cozy square hidden in the hearth of Chefchaouen/ Photo by Fabio Santaniello Bruun

สิ่งมหัศจรรย์ทางศิลปะ หัตถกรรมสู่สมบัติที่น่าชื่นชม

Photo by Alessandra Caretto

การมาเยือนเมือง เชฟชาอูน จะไม่สมบูรณ์หากไม่ได้ดื่มด่ำกับมรดกทางศิลปะอันอุดมสมบูรณ์ ตั้งแต่พรมทออย่างประณีตไปจนถึงเครื่องปั้นดินเผาอันประณีต เมืองนี้มีขุมสมบัติของงานหัตถกรรมที่รอให้คุณค้นพบ สินค้าหัตถกรรมพื้นเมืองที่ขึ้นชื่อของเมืองนี้คือสิ่งทอ  เช่น ผ้าคลุมไหล่จากขนแกะ ขนอูฐ หรือ ผ้าห่มทอมือ รวมไปถึงชุดถ้วยชาและจานชามทองเหลือง ในส่วนของอาหาร นอกจาก Tagine (ทาจีน) อาหารหม้อดินแอฟริกา ที่หารับประทานได้ใน Morocco แล้ว ชีสนมแพะของเมืองนี้ก็เป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวเช่นกัน ทั้งเป็นแหล่งปลูกกัญชาที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดของประเทศ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติบางคนจึงถือโอกาสนี้ ลิ้มลองรสชาติท้องถิ่นของ เชฟชาอูน อย่าลืมไปเยี่ยมชมตลาดท้องถิ่นที่ช่างฝีมือผู้มีทักษะแสดงความสามารถของตน พร้อมนำเสนอสินค้าอันตระการตามากมายให้เลือกซื้อ อย่าพลาดโอกาสนำวัฒนธรรมอันมีชีวิตชีวาของ เชฟชาอูน กลับบ้าน ไม่ว่าจะเป็นกระเบื้องเซรามิกเพ้นท์มือหรือผ้าห่มขนสัตว์อันหรูหรา

เมื่อพระอาทิตย์ตกดินเหนือเส้นขอบฟ้าสีฟ้าที่สาดแสงสีทองไปยังเมืองด้านล่าง คุณจะพบว่าตัวเองหลงใหลในเสน่ห์อันไร้กาลเวลาของเมือง Chefchaouen ด้วยความงามอันน่าหลงใหล ประวัติศาสตร์อันยาวนาน และการต้อนรับอันอบอุ่น อัญมณีที่ซ่อนอยู่ของโมร็อกโกแห่งนี้จึงเป็นจุดหมายปลายทางที่จะดึงดูดใจคุณและปล่อยให้คุณโหยหาที่จะกลับมาครั้งแล้วครั้งเล่า