เมื่อฤดูใบไม้ร่วงปกคลุมภูมิประเทศของอเมริกาด้วยสีสันอันสดใสของสีแดง ส้ม และทอง มีสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งที่โดดเด่นเป็นจุดที่ไม่ควรพลาดเพื่อชมความงามอันน่าทึ่งของใบไม้ร่วง เวอร์มอนต์มีเมืองเล็กๆ ที่มีเสน่ห์และเนินเขาที่ทอดยาว ซึ่งมอบประสบการณ์แบบนิวอิงแลนด์อย่างแท้จริง เทือกเขาไวท์ในรัฐนิวแฮมป์เชียร์มอบทัศนียภาพอันตระการตาและสีสันที่สดใสที่รายล้อมไปด้วยยอดเขาสูงชัน ในนิวยอร์ก เทือกเขาแอดิรอนแด็กเป็นการผสมผสานระหว่างป่าไม้และทะเลสาบอันน่าทึ่ง ในขณะที่หุบเขาแนปาเป็นการผสมผสานระหว่างไร่องุ่นอันเลื่องชื่อของภูมิภาคกับสีสันฤดูใบไม้ร่วงอันตระการตา และสุดท้าย หุบเขาเชนันโดอาห์ในรัฐเวอร์จิเนียก็มีเสน่ห์ด้วยทิวทัศน์ที่หลากหลายและสีสันอันสดใส แต่ละสถานที่ล้วนมีวิธีเฉพาะตัวในการสัมผัสกับความงดงามของฤดูกาล ทำให้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการชมใบไม้ร่วงและผู้ที่รักธรรมชาติ
1. เวอร์มอนต์ ดินแดนแห่งใบไม้ร่วงอันน่ามหัศจรรย์
รัฐเวอร์มอนต์เป็นรัฐในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐอเมริกา มีชื่อเสียงในเรื่องภูมิประเทศธรรมชาติซึ่งส่วนใหญ่เป็นป่าไม้ เป็นส่วนหนึ่งของภูมิภาค New England และยังเป็นที่รู้จักในฐานะบ้านของสะพานไม้มีหลังคาสมัยศตวรรษที่ 19 มากกว่า 100 แห่ง และเป็นผู้ผลิตน้ำเชื่อมเมเปิ้ลรายใหญ่ พื้นที่ภูเขาหลายพันเอเคอร์มีเส้นทางเดินป่าและลานสกีให้บริการ
สัมผัสประสบการณ์การเดินทางสุด ผจญภัย ในฤดูใบไม้ร่วงที่เวอร์มอนต์ ซึ่งใบไม้ในฤดูใบไม้ร่วงจะเปลี่ยนภูเขาสีเขียวให้กลายเป็นผืนผ้าหลากสีสัน เริ่มต้นวันใหม่ของคุณแต่เช้าเพื่อชมแสงแดดยามเช้าที่ส่องผ่านต้นเมเปิลและต้นโอ๊ก ซึ่งทำให้สีแดง สีส้ม และสีทองดูสดใสยิ่งขึ้น สถานที่อย่างสโตว์ซึ่งเป็นเมืองทางตอนเหนือของรัฐเวอร์มอนต์ เมืองนี้มองเห็นภูเขาแมนส์ฟิลด์ซึ่งมีชื่อเสียงจากเส้นทางเดินป่าและลานสกี หรือออกไปออกไปเดินเล่น เดินป่าตาม ในเมืองมิดเดิลเบอรี หรือ เส้นทางที่ 100 (the Vermont Scenic Route 100) ที่ทัศนียภาพงดงามตระการตามีทิวทัศน์ที่สวยงามและเข้าถึงได้ง่ายสำหรับนักเดินทาง เพลิดเพลินกับกิจกรรมต่างๆ เช่น ขับรถชมวิว เดินป่าใน Smugglers’ Notch หรือนั่งรถไฟ Green Mountain Railroad อย่างผ่อนคลาย ใบไม้ในฤดูใบไม้ร่วงของเวอร์มอนต์เป็นภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจอย่างแท้จริง โดยแต่ละช่วงจะเผยให้เห็นทัศนียภาพใหม่ที่สวยงามตระการตา
2. นิวแฮมป์เชียร์ ความงดงามของฤดูใบไม้ร่วงในเทือกเขาไวท์
ไวท์เมาน์เทนส์ในรัฐนิวแฮมป์เชียร์เป็นสถานที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งในนิวแฮมป์เชียร์ ตั้งอยู่ใจกลางป่าสงวนแห่งชาติไวท์เมาน์เทน ซึ่งเป็นเขตอนุรักษ์ขนาด 2 ล้านไร่ โอบล้อมชายแดนตะวันออกของนิวแฮมป์เชียร์ รวมถึงเทือกเขาเพรสซิเดนเชียลที่งดงาม ผู้ชื่นชอบ ใบไม้เปลี่ยนสี ต้องมาเยือนให้ได้
ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการชมสีสันของฤดูใบไม้ร่วงคือช่วงเช้าตรู่เมื่อพระอาทิตย์ขึ้นเหนือยอดเขาและสาดแสงสีทองไปทั่วบริเวณ Conway Scenic Railroad เป็นเส้นทางที่เข้าถึงได้เพื่อชมทิวทัศน์ด้วยการนั่งรถไฟผ่านใจกลางพื้นที่ที่อุดมด้วยใบไม้ กิจกรรมต่างๆ ได้แก่ เส้นทางเดินป่า เช่น Mount Washington Auto Road หรือขับรถชิลล์ๆ ผ่าน Kancamagus Highway อากาศบนภูเขาที่สดชื่นและทิวทัศน์อันสวยงามทำให้รัฐนิวแฮมป์เชียร์เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับการเดินทางในฤดูใบไม้ร่วง
3. เทือกเขา Adirondack ของนิวยอร์ก พักผ่อนช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่หลากสีสัน
เทือกเขา Adirondack ตั้งอยู่ทางเหนือของนครนิวยอร์กห่างกันเพียงไม่กี่ชั่วโมง ถือเป็นสวรรค์กลางแจ้ง ในอุทยาน Adirondack และมีพื้นที่คุ้มครองหลายล้านเอเคอร์ เทือกเขาและแม่น้ำในเทือกเขา Adirondack บริสุทธิ์และกว้างใหญ่เป็นแรงบันดาลใจให้คนหลายชั่วอายุคนมาเดินป่า พายเรือ และเที่ยวเล่นในธรรมชาติ เทือกเขา Adirondack เป็นพื้นที่คุ้มครองที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกาแผ่นดินใหญ่ มีเส้นทางเดินป่ามากกว่า 2,000 ไมล์ ทะเลสาบและสระน้ำมากกว่า 3,000 แห่ง และแม่น้ำยาว 1,200 ไมล์
เทือกเขา Adirondack มีทัศนียภาพที่งดงามเหมาะสำหรับการท่องเที่ยวในฤดูใบไม้ร่วงและ ชม ใบไม้เปลี่ยนสีหากต้องการประสบการณ์ที่ดีที่สุด ควรวางแผนมาเยี่ยมชมในช่วงบ่ายแก่ๆ เมื่อแสงแดดช่วยขับเน้นสีสันสดใสของป่าทึบ ภูมิภาคนี้สามารถเดินทางจากเมืองใหญ่ๆ เช่น ออลบานีได้ โดยมีเส้นทางที่สวยงาม เช่น Adirondack Trail และล่องเรือในทะเลสาบพลาซิด กิจกรรมต่างๆ ได้แก่ การเดินป่า ชมใบไม้เปลี่ยนสี และสำรวจเมืองที่มีเสน่ห์ เช่น ทะเลสาบจอร์จ ภูมิประเทศที่หลากหลายเป็นฉากหลังที่สวยงามของสีสันฤดูใบไม้ร่วงที่ตัดกับยอดเขา Adirondack ที่ขรุขระ
4. ภูมิภาคไวน์ Napa Valley ของแคลิฟอร์เนีย ใบไม้ร่วงและไวน์
ผสมผสานการท่องเที่ยวในฤดูใบไม้ร่วงเข้ากับความหรูหราในเขตผลิตไวน์ Napa Valley ของแคลิฟอร์เนีย เยี่ยมชมในช่วงบ่ายแก่ๆ เพื่อสัมผัสกับใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วงท่ามกลางฉากหลังของไร่องุ่นและไร่องุ่น Napa Valley Wine Train เป็นวิธีที่ไม่เหมือนใครในการชมสีสันของฤดูใบไม้ร่วงพร้อมเพลิดเพลินกับมื้ออาหารรสเลิศและชิมไวน์ สำรวจเส้นทางที่สวยงามของหุบเขา เยี่ยมชมโรงกลั่นไวน์ในท้องถิ่น หรือขึ้นบอลลูนลมร้อนเพื่อชมทิวทัศน์ที่สวยงามของทิวทัศน์หลากสีสัน ใบไม้เปลี่ยนสีในหุบเขา Napa Valley เสริมด้วยประสบการณ์ด้านไวน์และอาหารระดับโลก
5. เวอร์จิเนีย ความงามของฤดูใบไม้ร่วงในหุบเขาเชนันโดอาห์
หุบเขาเชนันโดอาห์ในรัฐเวอร์จิเนียเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับชมใบไม้เปลี่ยนสีและท่องเที่ยวในฤดูใบไม้ร่วงเช้าตรู่เป็นช่วงที่แสงแดดส่องถึงได้ดีที่สุดเพื่อเก็บภาพสีสันสดใสของป่าในหุบเขา การเดินทางนั้นง่ายดายโดยใช้เส้นทาง Skyline Drive ซึ่งทอดผ่านอุทยานแห่งชาติเชนันโดอาห์และมองเห็นทิวทัศน์ของใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงามตระการตา กิจกรรมต่างๆ ได้แก่ การเดินป่าตามเส้นทาง Appalachian Trail ขับรถชมวิว และเยี่ยมชมเมืองที่มีเสน่ห์ เช่น Luray และ Front Royal ประวัติศาสตร์อันยาวนานและทิวทัศน์ที่สวยงามของหุบเขาทำให้ที่นี่เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการเพลิดเพลินกับฤดูใบไม้ร่วง
6. โคโลราโด ใบไม้ร่วงในเทือกเขาร็อกกี้
สำรวจความงามอันขรุขระของใบไม้ร่วงในเทือกเขาร็อกกี้ของโคโลราโด เช้าตรู่และบ่ายแก่ๆ เป็นช่วงที่เหมาะแก่การถ่ายรูปต้นแอสเพนสีทองและพุ่มไม้สีแดงสดใส เดินทางไปยังทิวทัศน์ด้วยเส้นทางชมวิว เช่น San Juan Skyway หรือ Peak to Peak Highway กิจกรรมต่างๆ ได้แก่ การเดินป่าในอุทยานแห่งชาติเทือกเขาร็อกกี้ นั่งรถไฟชมวิวบนเส้นทาง Royal Gorge Route Railroad หรือขับรถชมทิวทัศน์อันสวยงามผ่านพื้นที่สูงในโคโลราโด ภูมิประเทศที่หลากหลายของโคโลราโดมอบประสบการณ์ฤดูใบไม้ร่วงที่ยากจะลืมเลือน
7. นิวอิงแลนด์ การผจญภัยชมใบไม้ร่วงสุดคลาสสิก
นิวอิงแลนด์เป็นรัฐที่มีใบไม้เปลี่ยนสีและการท่องเที่ยวใน ฤดูใบไม้ร่วง เนื่องจากมีทัศนียภาพฤดูใบไม้ร่วงที่เป็นสัญลักษณ์มากที่สุดแห่งหนึ่งในสหรัฐอเมริกา ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเยี่ยมชมคือช่วงต้นถึงกลางเดือนตุลาคม ซึ่งเป็นช่วงที่ใบไม้เปลี่ยนสีจะสวยงามที่สุด สถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ ได้แก่ เวอร์มอนต์ นิวแฮมป์เชียร์ และแมสซาชูเซตส์ ซึ่งแต่ละแห่งมีเส้นทางที่สวยงาม เมืองที่มีเสน่ห์ และทิวทัศน์ที่งดงาม กิจกรรมต่างๆ มีตั้งแต่การขับรถชมใบไม้เปลี่ยนสีบนเส้นทางหมายเลข 100 ไปจนถึงการสำรวจเทือกเขาเบิร์กเชียร์ ใบไม้เปลี่ยนสีอันเป็นเอกลักษณ์ของนิวอิงแลนด์ได้รับการเฉลิมฉลองด้วยเทศกาลในท้องถิ่น การเยี่ยมชมฟาร์ม และสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ มอบประสบการณ์ฤดูใบไม้ร่วงแบบฉบับดั้งเดิม
จุดหมายปลายทางเหล่านี้แต่ละแห่งมอบโอกาสอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะในการเพลิดเพลินกับใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วงและเก็บภาพบรรยากาศการท่องเที่ยวในฤดูใบไม้ร่วงเอาไว้
Klook.com