โอซาก้าไม่ได้ดีแค่เรื่องอาหารการกินชั้นเลิศอย่างเดียวเท่านั้น เพราะยังมีสถานที่ ร้านค้า หรือย่านฮิป ๆ ซุกซ่อนไว้ให้วัยรุ่น หรือคนรุ่นใหม่ ตื่นตาตื่นใจเดินเข้าออกร้านโน้นร้านนี้ก็อย่างสนุกสนาน ขอบอกเลยว่านี่เป็นเพียงเสี้ยวเดียวขององศาความเจ๋งที่เราเจอในโอซาก้าเท่านั้น!
Tachibana-Touri(Orange Street)
อยู่ห่างจากอเมริกามูระเพียงแค่ข้ามถนนใต้ทางด่วน Hanshin Expressway ไปเท่านั้น ที่นี่เป็นแหล่งรวมร้านเล็ก ๆ แต่อัดแน่นด้วยงานดีไซน์ อาทิ เฟอร์นิเจอร์ ของแต่งบ้าน ร้านอาหาร คาเฟ่ เสื้อผ้า บูทีคช็อปและร้านเสื้อผ้ามือสอง ที่เราอยากจะแนะนำ คือ ร้าน JAM ขายเสื้อผ้าสไตล์วินเทจขนาดใหญ่สุดในคันไซ แบ่งออกเป็น 3 ชั้น ได้แก่ชั้น 1 เสื้อผ้ารีเมคใหม่ ชั้น 2 เป็นแบบ Unisex และชั้น 3 เป็นของผู้ชายล้วน เหมาะสำหรับคนที่ชอบชุดยีนส์เท่ ๆ สินค้าขายดีคือเสื้อผ้ารีดีไซน์ของ Ralph Lauren จากเชิ้ตตัวโคร่งมาเป็นเดรสของสาว ๆ อีกร้านคือ Nutty เหมาะกับหนุ่มสาวแนวอินดี้รวมถึงเสื้อผ้าเด็ก ทั้งร้านเน้นเสื้อผ้าแนววินเทจอเมริกันยุค 1940-1960 ซึ่งงานออกแบบค่อนข้างเนี้ยบเรียบง่าย แต่ดูสมาร์ท
Contact: JAM 2-4-6, Minamihorie, Nishi-ku, Osaka 550-0015 http://jamtrading.jp/fs/jamtrading/c/gr9767
America-mura
หมู่บ้านอเมริกา คือแหล่งหนุ่มสาวหน้าใส เต็มไปด้วยสตรีทแฟชั่น สินค้าราคาถูกและของอิมพอร์ตจากอเมริกา และแน่นอนถ้าคุณอยากหาอะไรที่กำลังอินกำลังฮิตที่สุดก็ต้องแวะมาที่นี่ แหล่งรวมของกินเล่นที่วัยรุ่นชาวโอซาก้าจะต้องพากันมาเช็คอิน ซึ่งเท่าที่สำรวจดู ร้านขนมสุดฮอต 3 ร้านเรียงติดกันบนถนน Nishishinsaibashi ได้แก่ ร้านเมลอนปังสอดไส้ไอศกรีมของร้าน “The Second most delicious Melon-Bread in the world” สายไหมทรงอุนจิยักษ์ของร้าน Totti Candy Factory ติดกันคือร้านซอฟท์ครีมยาวที่สุดในญี่ปุ่น แต่ถ้าชอบของว่างดั้งเดิมสไตล์โอซาก้าแท้ ต้องลองทาโกะเซน (Takosen) ทาโกะยากิในรูปแบบใหม่ นั่นคือเอาทาโกะยากิมารวมกับข้าวเกรียบ (เซมเบ้) ได้ความกรอบจากข้าวเกรียบโปะด้วยทาโกะยากิเค็มๆ มันๆ มีความเข้ากันจนกินแล้วหยุดไม่ได้
Contact: Takosen (たこせん) 2-9-36, Nishishinsaibashi, Chuo-ku, Osaka 542-0086
Gadget
หนึ่งในร้านซักกะเก่าแก่ของโอซาก้าที่เปิดมานาน 17 ปี ภายในร้านมีของวินเทจ.oไลฟ์สไตล์ของชาวอเมริกัน เด่นสุดคือชุดแก้ว Vintage Fire King ปี1940-1970 ที่เจ้าของร้านยืนยันว่า หาไม่ได้แล้วในอเมริกา เป็นร้านที่เหมาะกับยอดนักสะสมตัวจริง
Contact: GADGET 2-4-10, Teradacho, Tennoji-ku, Osaka 543-0045
Getting There: ห่างจาก JR Teradacho Sta. ราว 5 นาที
Hug French toast café
ความสุขของการถูกกอดและการได้กอดเป็นที่มาของชื่อ Hug ที่นี่จึงพร้อมเสิร์ฟความสุขภายใต้คอนเซ็ปต์ “Happy Food and Smile, 365 days to All Customers” ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์จากสแกนดิเนเวียน ให้ความรู้สึกอบอุ่นและโมเดิร์น เฟรนช์โทสต์พิเศษด้วยขนมปังให้เลือกถึง 5 ชนิด เช่น อิงลิชมัฟฟิน และบาแกตต์ ใช้น้ำมันมะพร้าวทอด เนย ครีมสดและนมส่งตรงจากฮอกไกโด เมนูแนะนำได้แก่ Ichigo Brûlée no French Baguette Hakko Butter no Maple French toast – Served with Ice-cream พาสทรีเชฟคะโอรุ โอคาซากิ (Kaoru Okazaki) เคยทำงานในร้านอาหารที่ฟลอเรนซ์ รวมถึงฝึกปรือด้านเบเกอรี่ที่โรงแรม The Westin Osaka จากประสบการณ์ทั้งในและต่างประเทศ ทำให้เขานำองค์ความรู้ทั้งของหวานและการทำขนมปังมาสร้างหนึ่งในร้านเฟรนช์โทสต์ที่ดีที่สุดของโอซาก้า
Contact: Hug French toast café 60, 2-4-26, Nakazakinishi, Kita-ku, Osaka 530-0016 http://www.hug-café.jp
NOON+CAFE’
คลับแห่งแรกในย่านนะกะซะกิโจ ทำให้ที่นี่เป็นที่รวมตัวของคนวัยสามสิบกว่า แต่เมื่อดึงดีเจชื่อดังมาจัดเป็นอีเวนท์ทุกเดือน เปิดเป็นการแสดงไลฟ์ดึงดูดมิตรรักวัยคะนองให้มาปาร์ตี้ระเบิดความมันแบบข้ามวันข้ามคืน ส่วนกลางวันปรับเป็นคาเฟ่ เสิร์ฟอาหารอเมริกันดึงดูดหนุ่มสาวหัวนอก
Contact: NOON+CAFÉ 3-3-8, Nakazakinishi, Kita-ku Osaka 530-0015
JAM POT
อายุร้าน 12 ปี JAM POT จึงเป็นหนึ่งในสามร้านแรกของนะกะซะกิโจ ที่เน้นงานคุณภาพและมีดีไซน์ โดยคัดเลือกศิลปิน 90 คนทั่วญี่ปุ่น เอมิซังเจ้าของร้านเคยเป็นช่างภาพมาก่อน เธอชื่นชอบประเทศฝรั่งเศสมากขนาดที่จัดร้านได้เหมือนบรรยากาศร้านในย่านศิลปินที่มงมาร์ทของปารีส
Contact: JAM POT 3-2-31, Nakazaki, Kita-ku, Osaka http://jampot.jp/
6 แหล่งช้อป ชิม และความบันเิงทั้ง 6 นี้ เป็นแหล่งที่คนหนุ่มสาวชาวเจแปนจะออกมาแฮงค์เอาท์ จับจ่ายใช้สอยเอาสิ่งดี ๆ ที่ถูกอกถูกใจให้ได้ความอิ่มเอมในยามพักผ่อน หากเดินมาถึงที่นี่แล้วก็ออกมาเตร่แบบสบาย ๆ ทำให้การได้มาเที่ยวในโอซาก้าไดเติมเต็มในทุกมิติ