โรงแรมหรูสไตล์ไอริซ อัญมณีที่วิเศษเหล่านี้อยูในเมืองเมืองคอร์ก เคนแมร์ และคิลลาร์นีย์ แห่งไอร์แลนด์ และเช่นเดียวกับสัญลักษณ์เซลติกที่เชื่อมว่าทุกสิ่งนั้นมีความสำคัญสามประการ เช่น โลก ท้องฟ้า และทะเล หรือ อดีต ปัจจุบัน และอนาคต ในการสำรวจดินแดนไอร์แลนด์จึงเลือกที่จะพักที่สามโรงแรมเหล่านี้ เพื่อการเดินทางได้สัมผัสกลิ่นอายของชาวไอริชที่ได้สะสมไว้มายาวนาน
Cahernane House Hotel
โรงแรมคันทรีเฮาส์ เป็นแห่งแรกที่แนะนำ Cahernane House Hotel อยู่ที่เมืองคิลลาร์นีย์ ราคาเริ่มต้นที่ 279 ยูโรต่อคืน รวมอาหารเช้า Cahernane House Hotel อันเงียบสงบขนาด 48 ห้องนอนตั้งอยู่ในทัศนียภาพที่สวยงามบริเวณชายขอบอุทยานแห่งชาติคิลลาร์นีย์ แต่สามารถเดินไปยังใจกลางเมืองคิลลาร์นีย์ได้ ภูเขาตระหง่านและทะเลสาบคิลลาร์นีย์ที่สะท้อนแสงอย่างงดงาม ทั้งยังได้พบสัตว์ป่าตามธรรมชาติในขณะขี่ม้า พายเรือ ปั่นจักรยาน หรือตกปลา เสียงเดียวที่อาจได้ยินคือลูกแกะส่งเสียงร้องจากทุ่งกว้างหรือเสียงนกร้องจากธรรมชาติที่รายล้อม
ผ่อนคลายจากชีวิตประจำวันที่จำเจ มาสำรวจเพิ่มประสบการณ์การรับประทานอาหารชั้นเลิศระดับ AA Rosette ซึ่งหมายถึงร้านอาหารที่มีการเตรียมอาหารอย่างพิถีพิถัน ใช้วัตถุดิบคุณภาพสูง และมีรสชาติอาหารที่เอร็ดอร่อย จนได้รับคำชมจากผู้มาเยือนว่าเป็นอาหารดีที่สุด สองรายการในร้านอาหาร The Herbert รวมถึงอาหารท้องถิ่นจานโปรดตั้งแต่ปู Dingle ไปจนถึงสตรอเบอร์รี่ Farranfore และเมนูหมูสามชั้น ไปจนถึงเบอร์เกอร์เนื้อแกะ Kerry ปิดท้ายค่ำคืนด้วยค็อกเทลซิกเนเจอร์ ‘The Herbert’ จาก The Cellar Bar ซึ่งตั้งอยู่ในห้องเก็บไวน์ชั้นใต้ดินดั้งเดิมของที่พัก
Cahernane House สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2420 เพื่อเป็นที่พำนักของครอบครัว Henry Herbert ผู้ทรงเกียรติซึ่งมีประวัติย้อนหลังไปถึงช่วงทศวรรษ 1600 แขกผู้เข้าพักจะเพลิดเพลินไปกับมนต์เสน่ห์ของโลกเก่าของคฤหาสน์ที่ปกคลุมด้วยไม้เลื้อย ซึ่งมีสิ่งของที่สร้างขึ้นมาในประวัติศาสตร์และของเก่าดั้งเดิม ห้องนอนหรูหราที่ออกแบบเป็นพิเศษมีวอลล์เปเปอร์ที่เก่าแก่ดั้งเดิม หน้าต่างบานเลื่อนและลายเครือเถาที่หรูหรา ห้องน้ำหลายห้องมีอ่างอาบน้ำแบบตั้งพื้น ซึ่งจะพาคุณไปสู่บรรยากาศยุคอดีต
ด้วย Cahernane House Hotel มีประวัติศาสตร์อันยาวนานย้อนหลังไปถึงปี 1656 จึงมีกิจกรรมย้อนเวลากลับไปด้วยการทัวร์ประวัติศาสตร์ของบ้าน ซึ่งให้บริการโดยผู้จัดการทั่วไปทุกเย็นตามคำขอ
The Lansdowne Kenmare
โรงแรมแห่งที่สองอยู่กลางใจเมือง The Lansdowne Kenmare ที่เมืองเคนแมร์ มีห้องพักจำนวน 28 ห้อง ราคาเริ่มต้นที่ 196 ยูโรต่อคืน โรงแรมแห่งนี้เป็นแลนด์มาร์คที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในเคนแมร์ แต่เดิมสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่อยู่อาศัยในเมืองของเอิร์ลที่ 2 แห่งเชลบอร์น จอห์นและฟรานซิส เบรนแนน สองพี่น้องผู้มีชื่อเสียงทางธุรกิจโทรทัศน์ได้ซื้อกิจการในช่วงล็อกดาวน์ โรงแรมจึงได้รับการปรับโฉมใหม่ด้วยความรักและเปิดใหม่อีกครั้งในเดือนกรกฎาคมปี 2564 ต้อนรับแขกที่จะเดินไปตามถนนในเมืองที่แปลกตาของเคนแมร์ มีห้องนอน 28 ห้องที่มีเสน่ห์ ตกแต่งอย่างเรียบสงบและมีสไตล์ พร้อมความสะดวกสบายที่หรูหรา รวมทั้งชุดผ้าปูเตียงและผ้าขนหนูสุดหรูของ Francis Brennan
มีร้านอาหารหลายแห่ง รวมทั้ง The LK Café ซึ่งให้บริการกาแฟสูตรพิเศษและขนมหวาน ห้องอาหาร The Dining Bar Terrace ที่นำโดยเชฟ Paul Walsh ชวนให้นึกถึงบราสเซอรี่ฝรั่งเศสที่ใช้วัตถุดิบในท้องถิ่นที่ดีที่สุด การเปิดเลาน์ซล่าสุดของโรงแรมคือ Piano Lounge ซึ่งให้บริการแชมเปญและค็อกเทลในบรรยากาศทันสมัยพร้อมการแสดงเปียโนสดในวันหยุดสุดสัปดาห์
ทิวทัศน์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ อากาศบริสุทธิ์ ร้านอาหารชั้นเลิศ ผับที่ได้บรรยากาศแท้จริง และร้านค้าในท้องถิ่น ล้วนเป็นส่วนหนึ่งของการหลีกหนีจากความจำเจ สู่มุมพิเศษของ Kerry แห่งนี้ สไตล์อันเรียบสงบของโรงแรมในเมืองแห่งนี้เหมาะสำหรับการผ่อนคลายเมื่อสิ้นสุดการเที่ยวชมสถานที่ การเดินหรือเพียงแค่ไม่ทำอะไรเลยนอกจากการดูถนนและร้านค้าต่าง ๆ ของ Kenmare
มาที่นี่สามารถทัวร์ชม Ring of Beara อันงดงามซึ่งเป็นวันเดย์ทริปสบาย ๆ จากเคนแมร์ ชมทิวทัศน์ที่สวยงาม เมืองชายฝั่ง หอศิลป์ สวน เที่ยวเกาะ และอื่นๆ
The Montenotte Hotel
The Montenotte Hotel (คอร์กซิตี้, ไอร์แลนด์) เป็นโรงแรมแนวไอริซแห่งที่สาม อยู่ในเมืองคอร์กซิตี้ (Cork city) ประเทศไอร์แลนด์เช่นกัน ราคาค่าที่พักเริ่มต้นที่ 295 ยูโรต่อคืน พร้อมอาหารเช้า
หากคุณต้องการหลีกหนีความวุ่นวายในใจกลางเมือง การเข้าพักที่ Cork’s The Montenotte Hotel นั้นเป็นคำตอบอย่างแท้จริง โรงแรมแห่งนี้เก๋ไก๋และได้รับการออกแบบที่ล้อมรอบไปด้วยส่วนหน้าสีฟ้าอันโดดเด่นพร้อมการตกแต่งภายในแสนจะสดใสของสีสันที่ผสานกับเฟอร์นิเจอร์กำมะหยี่หรูหราอยู่ในห้องพักและห้องสวีทสุดหรู ในจำนวน 107 ห้องของโรงแรม
ภายใต้หลังคาสถาปัตยกรรมแห่งศตวรรษที่ 18 ที่มีตั้งแต่โรงภาพยนตร์ไปจนถึงสระว่ายน้ำและสปา The Glasshouse ซึ่งเป็นบาร์บนชั้นดาดฟ้าสไตล์อาร์ตเดโคของ Montenotte มีทิวทัศน์ให้เพลิดเพลินผ่านแก้วค็อกเทลที่ได้รับแรงบันดาลใจของ ‘Coffeenotte’ ซึ่งมาเป็นเครื่องดื่ม Espresso Martini หรือ ‘The Royal Rose’ ที่เข้มข้นโดยใช้เหล้ายินแบบสั่งทำพิเศษของ Montenotte
การยกขึ้นไปอีกระดับคือ The Panorama Bistro นำไปสู่ Panorama Terrace อันตระการตา ซึ่งมองเห็นทัศนียภาพอันงดงามของเมืองคอร์กซิตี้ และสวน Victoria ที่เคยทรุดโทรมของโรงแรม จากที่นี่เดินเพียง 15 นาทีก็จะถึงศูนย์กลางเมืองอันคึกคัก ซึ่งคุณจะได้พบกับประสบการณ์กลางแจ้งมากมาย ตั้งแต่การเล่นกระดานโต้คลื่นแบบยืนพาย ไปจนถึงทัวร์ปั่นจักรยาน และการล่องเรือในท่าเรือ
หากต้องการพักผ่อนสบาย ๆ ก็มุ่งหน้ากลับไปที่โรงแรมและเพลิดเพลินกับ Cameo Cinema โรงภาพยนตร์สุดเจ๋งภายในโรงแรมหรือ Motion Health Club ที่มีอุปกรณ์ครบครันพร้อมสระว่ายน้ำในร่ม ซาวน่า ห้องอบไอน้ำ จากุซซี่ และห้องออกกำลังกาย Bellevue Spa ที่ได้รับรางวัลของโรงแรมเป็นสถานที่สำหรับผ่อนคลายด้วยห้องทรีตเมนต์ 6 ห้อง เพื่อการฟื้นฟูร่างกาย ตั้งแต่การดูแลผิวหน้าไปจนถึงการบำบัดแบบองค์รวม
อาคารของ The Montenotte Hotel เดิมเคยเป็นบ้านของ Merchant Princes of Cork เมื่อกว่า 200 ปีมาแล้ว และมรดกของอาคารก็ได้รับการยืนยันอีกครั้ง เมื่อมีการค้นพบสวนสไตล์วิกตอเรียที่ทรุดโทรมในต้นปี 2017 ความมหัศจรรย์ของสวนแห่งนี้ถูกซ่อนไว้ในพื้นที่รกร้าง แต่ด้วยความรักของเจ้าของ จึงได้รับการบูรณะให้กลับมารุ่งเรืองดังเดิมพร้อมทิวทัศน์อันยอดเยี่ยมที่มองเห็นเมืองคอร์กและท่าเรือ
เมืองคอร์กเป็นชุมชนที่เป็นจุดหมายที่ดีที่สุดของนักเดินทางที่มีใจรักอิสระ และโรงแรมที่มีชีวิตชีวาอย่างอิสระ เรามาเปลี่ยนโรงแรมบูติกสุดหรูให้กลายเป็นปรากฏการณ์ และเลือกสิ่งที่โดดเด่นหลากหลายที่น่ารื่นรมย์อย่างแท้จริง ผู้คน สถานที่ และประสบการณ์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เสน่ห์ที่ใกล้ชิด และมีระดับโดยธรรมชาติ ผู้คนได้สัมผัสด้วยความตั้งใจ ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน
เข้าไปเยี่ยมชมเพิ่มเติมทั้งสามโรงแรมนี้ได้ที่ www.slh.com ติดต่อตัวแทนการท่องเที่ยว หรือโทรติดต่อ Small Luxury Hotels of the World VIP Desk คลิกที่นี่เพื่อดูรายชื่อผู้ติดต่อทั้งหมดตามประเทศที่มีเครือข่ายอยู่ทั่วโลก